วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลบให้หมด โฆษณากวนใจบน Facebook

ลบให้หมด โฆษณากวนใจบน Facebook

       นอกจากเราจะเห็นข้อความต่างๆ ที่เพื่อนๆ อัพกันแล้ว เรายังจะได้เห็นพวกสแปมต่างๆ รวมถึงโฆษณาต่างๆ อีกมากมาย ทั้งแบบที่เราอยากดูและไม่อยากดู โดยเฉพาะโฆษณาประเภทชวนไปหาเงิน เพียงแค่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็น หรือไม่ก็พวกข้อความสแปมต่างๆ วิดีโออะไรพวกนี้ สุดฮิตช่วงนี้ก็ วิดีโอ ใบเตยสั้นเสมอหู ครับ..มาเพียบจริงๆ
       ซึ่งเราสามารถจัดการบล็อคไม่ให้โฆษณาหรือข้อความสแปมต่างๆ ที่เราไม่ต้องการได้ และพี่เอกแนะนำให้ทำด้วยครับ เท่าที่ลองดูได้ผลค่อนข้างดีมากๆ โฆษณาแปลกๆ ไม่โผล่มาให้เห็นเลย เพราะพวกนี้เขาจะส่งแบบซ้ำๆ กันครับ ไล่แท็กภาพเพื่อนๆ ของเราไปเรื่อยๆ แต่ถามว่ามีโอกาสมาอีกใหม่ มีครับถ้าเขาเปลี่ยนข้อความอะไรมาใหม่ๆ เราก็ทำแบบเดิม สุดท้ายก็จะค่อยๆ หายไปเอง
       สำหรับวิธีการทำก็ง่ายๆ เลย อธิบายไปตามภาพละกัน เริ่มจากเมื่อเห็นข้อความ ให้เราเอาเมาส์ไปคลิกตรงเครื่องหมาย drop down (สามเหลี่ยวหัวคว่ำ) จะมีเมนูตัวเลือกแสดงขึ้นมา ให้เราคลิกที่คำว่าฉันไม่ต้องการเห็นโพสต์นี้
จากนั้นจะมีข้อความตามภาพตัวอย่างแสดงขึ้นมา ให้คลิกที่ เพราะเหตุใดคุณจึงไม่ต้องการเห็นเรื่องราวนี้
 จะมีหน้าต่างแสดงขึ้นมา เลือกว่า เป็นสแปม คลิกปุ่ม ดำเนินการต่อ
 จากนั้นระบบจะถามว่า เป็นสแปมประเภทใด ตอบไปเลยว่า โพสต์ที่เป็นสแปม แล้วคลิกปุ่ม ดำเนินการต่อ
       เราสามารถเลือก block ทั้ง app ทั้งได้เลยครับ แนะนำว่าถ้าเป็นเพื่อนเราไม่ต้องบล็อคนะครับ เพราะเขาไม่ได้เป็นคนโพสต์ แต่โดนคนอื่นๆ แท็กภาพมา ส่วน app แนะนำว่าให้จัดกาารบล็อกไปเลย จะได้ไม่มากวนใจอีกครับ
ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราจะเห็นข้อความว่า ขอบคุณที่แจ้งให้เราทราบ..
fb7

ไปลองทำกันดูนะครับ…
สนับสนุนเนื้อหา: Arip
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

iPhone 6 จะมาพร้อมหน้าจอแบบ Sapphire แข็งแรงกว่า Gorilla Glass

 (ไอโฟน 6) จะมาพร้อมหน้าจอแบบ Sapphire แข็งแรงกว่า Gorilla Glass

          อัพเดทข่าว iPhone 6 (ไอโฟน 6) ในวันนี้ เมื่อรายงานล่าสุด เผยว่าiPhone 6 จะมาพร้อมหน้าจอ Sapphire ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แทนหน้าจอแบบ Gorilla Glass ที่ใช้บน iPhone รุ่นปัจจุบัน และรุ่นก่อนหน้า
          โดย กระจกหน้าจอแบบ Sapphire นั้น ถูกใช้บนเลนส์ของ ไอโฟน และตรงปุ่ม Home ของ iPhone 5S ซึ่งเป็นตำแหน่งของ เซ็นเซอร์ Touch ID นั่นเอง โดยราคาต้นทุนของ กระจกหน้าจอแบบ Sapphire นั้น จะสูงกว่า หน้าจอแบบ Gorilla Glass ประมาณ 3-4 เท่าครับ
ส่วนกำหนดการเปิดตัว iPhone 6 (ไอโฟน 6) คาดว่า เป็นช่วงเดือนกันยายนนี้

ที่มา - gsmarena.com

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy S5 vs iPhone 5S

เปรียบเทียบสเปค  vs iPhone 5S

          หลังจากเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S5 vs Samsung Galaxy S4 กันไปแล้ว ต่อไป เราจะมาเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPhone 5S กันบ้างครับ จริงอยู่ที่ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะเปิดตัวกันคนละปี ทำให้มีสเปคที่ทิ้งช่วงกันพอสมควร ทั้งในเรื่องของ หน่วยประมวลผล, RAM, กล้องถ่ายรูป รวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ แต่การเปิดตัวSamsung Galaxy S5 ในปีนี้ น่าจะเป็นแนวทางได้ว่า iPhone 6 ที่มีกำหนดการเปิดตัว ในเดือนกันยายน จะมีสเปค และฟีเจอร์ ที่น่าสนใจอย่างไร
มาดูกันว่า ถ้าหากเรานำ สเปค Samsung Galaxy S5 vs iPhone 5S จะแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
สนับสนุนเนื้อหา: www.techmoblog.com 
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

Galaxy S5 พบซอฟต์แวร์ กินพื้นที่ไปแล้วถึง 8GB

Galaxy S5 พบซอฟต์แวร์ กินพื้นที่ไปแล้วถึง 8GB

          Samsung Galaxy S5 พบอุปสรรคในการเก็บข้อมูลในหน่วยความจำภายในเสียแล้ว เมื่อซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่บรรจุมา ใช้พื้นที่ไปแล้วถึง 8GB
galaxy-s5-storage
          ก่อนหน้านี้ปัญหาซอฟต์แวร์กินพื้นที่หน่วยความจำไปกว่าครึ่งเคยเกิดขึ้น มาแล้วกับ Galaxy S4 ซึ่งปัญหาดังกล่าวที่เคยทำให้ลูกค้าไม่พอใจยังคงเกิดกับ Galaxy S5 นั่นแปลว่าลูกค้าที่ซื้อ Samsung Galaxy S5 รุ่น 16GB ไปใช้ อาจต้องพึ่งพา microSD Card อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะลูกค้าหลายๆท่านที่ชอบโหลดแอพ, ถ่ายรูป เป็นต้น แต่ถึงจะมี microSD Card ช่วย ลูกค้าก็ยังทำได้แค่เก็บข้อมูลอย่างรูปถ่าย, วีดีโอ หรือไฟล์อื่นๆ ได้เท่านั้น เนื่องจากยังไม่สามารถลงแอพใน microSD Card ได้โดยตรงครับ
อย่างไรก็ตามทางซัมซุงได้เคยออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นกับ Galaxy S4 ว่า ฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมา ประกอบกับหน้าจอที่มีความละเอียดสูงขึ้นย่อมต้องแลกมากับพื้นที่หน่วยความจำ แต่ก็สามารถแก้ไขได้โดยการใช้ microSD Card
source : androidcentral
สนับสนุนเนื้อหา: Arip
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

Samsung Galaxy S5 … ว้าว หรือ วืด !!!

 … ว้าว หรือ วืด!!!

          เมื่อคืนที่ผ่านมาหลายคนคงอดหลับอดนอนรอชมการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 และจากภาพและสเปคที่เปิดเผยต่อสาธารณชนก็แทบจะเป็นเรื่องปกติที่จะมีทั้ง เสียงชื่นชมและคำสบประมาท ซึ่งจากคำกล่าวของผู้บริหารของซัมซุงบนเวที MWC 2014 หรือ Mobile World Congress ยืนยันว่า Samsung Galaxy S5 เป็นเครื่องมือที่ผู้บริโภคที่กำลังมองหาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุน พวกเขาต่อการปรับปรุงชีวิตประจำวัน Galaxy S5 แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่จำเป็นและมีประโยชน์ ซึ่งซัมซุงมุ่งเน้นไปที่การส่งมอบมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้ผ่านนวัต กรรมที่เป็นแรงบันดาลใจ
          จากการสังเกตการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 พบ ว่าซัมซุงตั้งใจแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของเครื่องมือรุ่นใหม่ที่เกิดจาก ความต้องการของผู้บริโภค สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันได้ในทุกๆสถานการณ์ ซึ่งซัมซุงค่อนข้างเอาใจใส่ไปกับการดูแลสุขภาพถึงขนาดใส่เซนเซอร์ที่เรียก ว่า Heart Rate เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจมาไว้ใต้กล้องหลัง พร้อมการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Gear Fit สำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพอีกด้วย
          คุณสมบัติต่อมาที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนรักการถ่ายภาพคือกล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลที่มากับเทคโนโลยีออโต้โฟกัสที่ใช้เวลาสั้นๆเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ประกอบกับโหมดที่เรียกว่า Selective Focus ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพในลักษณะชัดตื้นได้ รวมทั้งคุณสมบัติการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด Ultra HD แต่จากความสามารถนี้ผู้ใช้อาจต้องทำใจยอมรับว่าแม้วีดีโอจะออกมาชัดแจ๋วเห็น สิว ก็ต้องแลกมาด้วยจำนวนพื้นที่เก็บข้อมูลที่เสียไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าไฟล์วีดีโอ Ultra HD ที่คุณบันทึกไปนั้นใช้เวลาไปเท่าไหร่ ยิ่งบันทึกเวลานาน ไฟล์ก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย อย่างไรก็ดีซัมซุงออกตัวว่าจะเป็นครั้งแรกในโหมดการบันทึกวีดีโอที่รองรับ การใช้ HDR ได้
          อีกหนึ่งคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาเข้ากับยุคสมัยนี้คือ Finger Scanner หรือเซนเซอร์สแกนลายนิ้วที่ปุ่มโฮม ช่วยในเรื่องการชำระเงินผ่านมือถือและใช้ร่วมกับ Private Mode เพื่อปกป้องไฟล์หรือรูปภาพที่ผู้บริโภคไม่ต้องการให้ใครเห็นได้ ซึ่งสังเกตว่าซัมซุงตั้งใจให้สแกนลายนิ้วสามารถป้องกันเฉพาะไฟล์ที่สำคัญ จริงๆ โดยจะแตกต่างไปจาก iPhone5s ที่ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอเพื่อป้องกันการเข้าใช้งานทั้งหมด
          คุณสมบัติต่อมาคือความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67 ซึ่งซัมซุงเห็นว่าในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอาจต้องเผชิญสถานการณ์ที่ทำ ให้มือถือต้องเปียกน้ำโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้น Galaxy S5 จึงเป็นเครื่องมืออีกหนึ่งรุ่นที่กันน้ำกันฝุ่นได้ แต่ผู้บริหารของซัมซุงได้ออกมาพูดดักผู้บริโภคก่อนเลยว่า “อย่าให้มันไปอยู่ใต้น้ำ” เพราะฉะนั้นจึงแปลว่า Samsung Galaxy S5 ป้องกันน้ำได้จริงแต่ไม่อาจลงไปจุ่มน้ำได้เหมือน Sony Xperia
          อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ส่วนตัวแล้วชอบอย่างยิ่งคือโหมด Ultra Power Saving ซึ่งมีประโยชน์มากกับชีวิตประจำวัน เนื่องจากการใช้งานของผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการเชื่อมต่อ 3G อยู่ตลอดเวลา ส่งผลต่อแบตเตอรี่ที่หมดเร็ว และหากอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้มือถือเพื่อการติดต่อฉุกเฉินแต่แบ ตหมด มือถือราคาแพงๆก็แทบจะหมดค่าไปโดยปริยาย แต่สำหรับ Ultra Power Saving จะปรับการใช้งานในขณะที่แบตเหลือ 10% โดยปรับหน้าจอให้เป็นขาวดำ และจำกัดการใช้งานเฉพาะในส่วนที่จำเป็น ได้แก่ โหมดโทรออก, การส่งข้อความ เป็นต้น แถมยังสามารถยืดชั่วโมงการใช้งานได้เพิ่มอีก 24 ชั่วโมงอีกด้วย
          และมาถึงไฮไลท์สำคัญของ Galaxy S5 คือการเปลี่ยนดีไซน์ตัวเครื่อง ซึ่งข่าวลือก่อนหน้าที่จะมีการเปิดตัวมีหลายกระแสที่ออกมาบอกถึงการใช้ฝา หลังอะลูมิเนียมบ้าง หน้าจอโค้ง ไร้ขอบบ้าง และจากสิ่งที่ได้เห็นกันคือฝาหลังที่ยังใช้พลาสติกและมีลายฉลุเพิ่มขึ้นมา และส่วนอื่นๆของตัวเครื่อง Samsung Galaxy S5 ก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก S4 นอกเสียจากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น !!
          ส่วนเป็นเพราะเหตุใดซัมซุงถึงเลือกการออกแบบเช่นนี้กับ Galaxy S5 ? คำตอบจริงๆคงไม่มีใครรู้ ซึ่งเชื่อว่าคอไอทีที่เห็นคงมีทั้งชอบและไม่ชอบ !! สรุปสุดท้ายกับการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 ในความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่า “ไม่ว้าว” อย่างที่ตั้งตารอ ส่วนใครจะเห็นต่างไปจากนี้ก็ไม่ว่ากันครับ แต่ที่แอดมินแอบคิดว่าบางทีซัมซุงอาจปล่อยทีเด็ดมาช่วงปลายปี ทั้งการเลือกใช้หน้าจอแบบยืดหยุ่นจริง หรือจะเป็นชิปเซ็ต 64 บิต ที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในแฟ็บเล็ตตัวพ่ออย่าง Galaxy Note 4 ก็เป็นได้
 ภาพจาก TheVerge และ Samsung Tomorrow
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ซื้อ Samsung Galaxy NotePro หรือเก็บตังค์รอ Apple iPad Pro ดีกว่ากัน!!!!

[วิเคราะห์] ซื้อ Samsung Galaxy NotePro หรือเก็บตังค์รอ Apple iPad Pro ดีกว่ากัน!!!!

          ล่าสุดก็ได้มีการเปิดสเปคจริงๆและราคาจริงๆของ Galaxy NotePro จาก Samsung กันมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาค่อนข้างสูงทีเดียว ถึง 29,900 บาทจากศูนย์ไทย แต่ Galaxy NotePro ในต่างประเทศนั้นไปตกอยู่ที่ราง 749 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 24,500 บาท ที่มีราคาต่างกันถึง 5,000 บาทกันเลยทีเดียว แน่นอนนอนเมื่อเทียบกับสเปคของ Galaxy Note Pro ที่จะได้รับกลับมาก็”อาจจะ”สมกับราคา
          แต่คำถามคือคุ้มไหมที่จะซื้อ Galaxy Note Pro ตอนนี้? หรือควรที่จะเก็บตังรอไปก่อน? หรือควรจะรอ iPad Pro จาก Apple ดี? ซึ่งนั่นก็นับเป็นโจทย์ใหญ่โจทย์นึงที่ NBS เชื่อว่าเพื่อนๆสมาชิกและนักอ่านหลายๆท่านคงอยากจะทราบคำตอบกันเป็นแน่ ในวันนี้ NBS จึงถือโอกาศเขียนบทความ [วิเคราะห์] ซื้อ Samsung Galaxy NotePro หรือเก็บตังรอ Apple iPad Pro ดีกว่ากัน!!!! เพื่อเป็นการวิเคราะห์คร่าวๆเพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสิน ใจของทุกท่านครับ

Galaxy NotePro สเปค

          ก่อนอื่นมาดูสเปคของทาง Galaxy NotePro จาก Samsung กันก่อน สำหรับ Galaxy NotePro ถูกวางเป็นแท็บเล็ตเรือธงรุ่นสูงสุดในปี 2014 ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพโดยเฉพาะ มาพร้อมฟีเจอร์และสเปคที่สุดแสนอลังการงานสร้างมากๆดังนี้
  • จอ Super clear LCD ขนาด 12.2″ ความละเอียด WQXGA 2,560 x 1,600 พิกเซล (16:10)
  • แยกรุ่นเป็นรุ่น Wi-Fi/3G ใช้ Exynos 5 Octa Core (1.9GHz+1.3GHz) และรุ่น LTE ใช้ Snapdragon 800 2.3GHz Quad Core
  • แรม 3GB, ตัวเก็บข้อมูล 32/64GB, สามารถเพิ่มเติม microSD
  • กล้องหลัก 8MP LED Flash, Zero Shutter Lag, กล้องหน้า 2MP
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat
  • แบตเตอรี่ 9,500 mAh
  • น้ำหนัก 750 กรัม (Wifi) / 753 กรัม (3G/LTE)
  • ปากกา S Pen และแอพฯสำหรับปากกาอย่าง S Note, S Planner, Air Command ครบชุด
  • ซอฟต์แวร์ชุดมาตรฐาน เช่น TouchWiz, KNOX, ChatON, Group Play
  • สนนราคา 29,900 บาทในไทย

iPad Pro สเปค

          หันมามอง iPad Pro จาก Apple กันบ้าง ที่ ณ ตอนนี้ยังเป็นข่าวลืออยู่ แต่ผู้เขียนคาดว่าน่าจะมาจริงๆอย่างแน่นอน และจากที่รวบรวมข้อมูลจากหลายๆแหล่งข่าวแล้วสรุปได้ว่า เจ้า iPad Pro จาก Apple ก็น่าจะเป็นแท็บเล็ตที่อยู่ในระดับเดียวกันกับ Galaxy Note Pro อย่างแน่นอน และน่าจะวางขายในช่วงครึ่งหลังของปี 2014 หรืออย่างช้าที่สุดก็น่าจะเป็นในช่วงปลายปี 2014 ซึ่งอาจจะมีสเปคดังนี้
  • หน้าจอ 12.9 นิ้ว ความละเอียด 4K 3840 x 2160 พิกเซล และ 2K 2560 × 1440 พิกเซล
  • มาพร้อมเทคโนโลยี EYE ID แบบใหม่แทน Touch ID นำเทคโนโลยีการสแกนม่านตาของ iPad Pro ต่อยอดโดยนำมาใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหวของนัยน์ตา ใช้เลื่อนหน้าเว็บขึ้นลง หรือหยุดเล่นวิดีโออัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ละสายตาจากหน้าจอแทนการใช้งานแบบ สัมผัส
  • ชิปประมวลผล Apple A8
  • อาจมาพร้อมแรมขนาด 2GB
  • มีตัวเก็บข้อมูลให้เลือกที่ 64GB, 128GB และ 256GB
  • รองรับการเชื่อมต่อไร้สายครบครัน
  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 17Watt
  • น้ำหนักตัว iPad Pro ประมาณ 600 – 800 กรัม
  • อาจจะมาพร้อมปากกาสไตลัสที่ออกแบบโดย Apple เอง
  • รองรับการต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
  • อาจะใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 8
  • ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท
          ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากสเปคแล้วจะเห็นได้ว่าแท็บเล็ตทั้งสองตัวมีความ ใกล้เคียงกันมากทีเดียว ทั้งในเรื่องของสเปคต่างๆ และฟีเจอร์ที่เมื่อมองโดยรวมๆแล้วจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เมื่อมองให้ลึกลงไปอีกดูเหมือน Apple จะมีภาษีที่ดีกว่า Samsung อยุ่บ้างเล็กน้อย เช่นเทคโนโลยี EYE ID ที่ดูมีอนาคต รวมไปถึงจอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่กว่าและความละเอียดสูงกว่ามากถึงระดับ 4K นั่นเอง โดยผมจะเสนอสามแนวทางเพื่อประกอบการตัดสินใจดังนี้
 

ทางเลือกที่ 1.ซื้อ Samsung Galaxy NotePro ไปเลย

          สำหรับทางเลือกแรกขอใช้คำจำกัดความว่า”ซื้อก่อนใช้ก่อนครับ”แน่นอนว่า iPad Pro นั้นกว่าจะมาก็อาจจะเป็นครึ่งหลัง หรือปลายปีนู้น ซึ่งก็กินระยะเวลาค่อนข้างนานมากสำหรับผู้ที่อยากจะซื้อมาใช้ก่อนและเตรียม เงินซื้อเครื่องเอาไว้แล้ว โดย Galaxy NotePro เหมาะสมกับผู้ใช้งานมืออาชีพที่อยากใช้งานแบบด่วนๆและถนัดในการใช้ งาน Android เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ทางเลือกที่ 2.เก็บตังรอซื้อ iPad Pro

          สำหรับท่านที่เป็นสาวก Apple หรือชอบใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ผมขอแนะนำให้รอดีกว่าครับ เพราะนอกจากที่จะได้เครื่องที่ถูกใจแล้ว ยังมีเวลาเหลือพอที่จะเก็บเงินได้อีกด้วย ที่สำคัญถ้าฟีเจอร์ที่ข่าวลือว่าไว้ตรงกับความเป็นจริง iPad Pro ก็จะเป็นสุดยอดแท็บเล็ตสำหรับอนาคตเลยละครับ

ทางเลือกที่ 3.ไม่ซื้อ!!!!!!

          ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note Pro และ Apple iPad Pro จะเป็นแท็บเล็ตที่น่าสนใจก็ตามที แต่ด้วยราคาเกือบ 30,000 บาท นั้นเรียกได้ว่าซื้อ Ultrabook , โน้ตบุ๊ค หรือแม้แต่ Apple Mac Air ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าได้ไม่ยากเลย สำหรับท่านที่ต้องการนำมาใช้งานจริงๆ โน้ตบุ๊ค และ Ultrabook ดูจะมีภาษีดีกว่า ยกเว้นแต่ด้านการพกพาที่ Samsung Galaxy Note Pro และ Apple iPad Pro จะสามารถพกพาได้สะดวกกว่า แต่การใช้งานผมยืนยันว่าโน้ตบุ๊ค และ Ultrabook ใช้ได้ดีกว่าแน่นอน
          ก็จบลงไปแล้วนะครับกับสามทางเลือกที่เป็นการวิเคราะห์เบื้องต้นคร่าวๆ ที่ก็หวังว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อ หรือเกร็ดเล็กๆให้ทุกๆท่านได้ลองอ่านกัน ซึ่งอย่างไรก็ดีสุดท้ายขอฝากไว้ว่าสเปคของ iPad Pro ยังเป็นแค่การคาดเดา และยังเป็นข่าวลือที่มีโอกาศขึ้นจริงพอสมควร แต่ทาง Apple ยังไม่ได้ยืนยันถึงการมีตัวตนของ Apple iPad Pro แต่อย่างใด ซึ่งต้องตามดูกันต่อไปและใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจประกอบด้วยครับ
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ

10 อันดับ โดเมนเนม ทำไมถึงแพงช็อคโลกแบบนี้ มีใครสนไหมครับ

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Samsung Galaxy S5 เปิดตัวแล้ว ชมสรุปข้อมูล พร้อมสเปค และ ราคา ได้ที่นี่

Samsung Galaxy S5 เปิดตัวแล้ว ชมสรุปข้อมูล พร้อมสเปค และ ราคา ได้ที่นี่
          ในที่สุด Samsung Galaxy S5 ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่ง Samsung Galaxy S5 นั้นก็มาพร้อมกับการปรับปรุงทั้งในเรื่องของสเปค รวมถึงมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามามากมาย
          โดยในวันนี้ ทีมงาน Sanook! Hitech ได้ทำการรวบรวมข้อมูลโดยสรุป ทั้งในเรื่องของสเปค และ ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Samsung Galaxy S5 มาให้ได้ชมกันว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว จะมีความน่าสนใจมากแค่ไหน และ จะมีฟีเจอร์อะไรเด่นๆ บ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ลองมาชมกันเลยครับ
          Samsung Galaxy S5 จะมีให้เลือก  สี  4 นั่นก็คือ ดำ ขาว และ ทอง และสีน้ำเงิน(Black, White, Blue, Gold) ตามข่าวที่ทางทีมงานได้นำเสนอไปเมื่อตอนเย็นของเมื่อวาน
          Samsung Galaxy S5 มาพร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำ-กันฝุ่น ได้ตามมาตรฐาน IP67 ที่สามารถกันน้ำลึกได้ถึง 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
          Samsung Galaxy S5 ใช้หน้าจอ 5.1 นิ้ว แบบ Super AMOLED display ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
          สำหรับกล้องดิจิตอลบน Samsung Galaxy S5 นั้นยังคงมีความละเอียดอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซลสำหรับกล้องหลัง ส่วนกล้องหน้านั้มีความละเอียดอยู่ที่ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีการปรับปรุงขนาดเซ็นเซอร์รับภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
          และตรงใกล้ๆ เลนส์กล้องด้านหลังเป็นตำแหน่งของระบบเซนเซอร์ตรวจระดับการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย Heart Rate Sensor สามารถใช้งานได้ด้วยการแตะนิ้วค้างไว้
          แน่นอนว่า สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy S5  นั้นก็จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 (KitKat) ซึ่งระบบปฏิบัติการดังกล่าวนั้น ถูกออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับ Samsung Galaxy S5 ได้เป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้นั้นคือ Galaxy S5 มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเช่นเดียวกับ iPhone 5S
Samsung Galaxy S5 at a glance:
  • Form factor: Water-resistant bar phone, IP67 certification
  • General: 2G, 3G and 4G LTE connectivity
  • Dimensions: 142 x 72.5 x 8.1mm, 145 g
  • Display: 5.1 16M-color Super AMOLED HD capacitive touchscreen with a resolution of 1920 x 1080 pixels (431ppi)
  • Chipset: Snapdragon 800 MSM8974-AC
  • CPU: 2.5GHz Krait 400
  • GPU: Adreno 330
  • RAM: 2GB
  • OS: Android 4.4.2 (KitKat)
  • Memory: 16/32GB storage, microSD card slot
  • Still camera: 16 megapixel auto-focus camera
  • Video camera: UHD (2160p) video recording
  • Connectivity: Wi-Fi a/b/g/n/ac, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, microUSB 3.0 with MHL, GPS receiver with A-GPS and GLONASS, 3.5mm audio jack, NFC, Infrared port
  • Battery: 2800mAh
  • Heart rate monitor
  • Fingerprint scanner
  • Additional sensors: humidity sensor, temperature sensor
          Samsung Galaxy S5 จำเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเดือนเมษายนใน 150  ต้องมาลุ้นกันอีกที ว่าจะมีประเทศไทยหรือเปล่า สำหรับราคานั้นยังไม่มีการระบุว่า จะมีการเปิดขาย Samsung Galaxy S5 ที่เท่าไร แต่ทางทีมงาน Sanook! Hitech คาดว่าไม่น่าพลาด สำหรับราคานั้นคาดว่าจะไม่ห่างจากราคาเก่ามากนัก ยังไงก็ 2x,xxx บาทแน่นอน
S! Hitech Comment
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ บน Samsung Galaxy S5
• Ultra Power Saving Mode โหมดประหยัดพลังงาน ในการปรับหน้าจอให้เป็นแบบขาวดำ ทำให้สามารถใช้งานได้ต่ออีก 24 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือเพียง 10% ก็ตาม
• Kids Mode จำกัดการเข้าใช้งานของเด็กๆ
• Download booster เพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดด้วยการใช้ Wi-Fi และ LTE ร่วมกัน แต่ขนาดไฟล์จะต้องใหญ่กว่า 30 MB
• S Health 3.0 แอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพ ใช้งานร่วมกันเซ็นเซอร์ภายในตัวเครื่อง
ที่มา:  www.techmoblog.com, www.phonearena.com, www.gsmarena.com
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วิธีแก้ปัญหา “โน๊ตบุ๊ค“ ไม่เห็นอุปกรณ์ต่อพ่วงรอบข้าง

ปัญหา โน๊ตบุ๊ค ไม่เห็นอุปกรณ์ต่อพ่วงรอบข้าง

          ต่อพ่วงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้อยู่ได้อย่างหลากหลาย โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงเหล่านั้น ส่วนใหญ่อยู่ทีเรื่องของพอร์ตต่อพ่วงที่อยู่บนโน๊ตบุ๊คและไดรเวอร์ ซึ่งมักจะส่งผลต่อการใช้งานอยู่เป็นประจำ
          ซึ่งทางแก้ไขนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดระบบไดรเวอร์ การตรวจเช็คความพร้อมของพอร์ตและอุปกรณ์ รวมไปถึงของกำลังไฟและการใช้พลังงานของระบบ
          1. อันดับแรกให้เข้าดูที่ Device Manager ก่อนว่ามีปัญหาเกี่ยวกับไดรเวอร์ของ USB Controller หรือไม่ หากระบบไม่สามารถตรวจสอบคอนโทรลเลอร์ได้ถูกต้อง ก็ไม่สามารถใช้งานได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือ เข้าไปติดตั้งไดรเวอร์ดังกล่าวให้เรียบร้อย ด้วยการInstall driver ที่ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คแต่ละราย
          2. ต่อมาให้ตรวจสอบการทำงานของพอร์ต ซึ่งหากเป็น USB ก็ให้นำอุปกรณ์มาทดลองต่อเข้ากับพอร์ตแต่ละพอร์ต เพื่อเช็คว่าสามารถใช้งานพอร์ตใดได้บ้าง ซึ่งหากมีปัญหาที่พอร์ตใด ก็อาจจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ เพื่อมาตรวจเช็คความแน่ใจ ก่อนที่จะส่งซ่อมอีกครั้งหนึ่ง
          3. อุปกรณ์บางอย่าง ต้องการใช้กำลังไฟในการทำงานมากกว่าปกติ อย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอกบางรุ่นที่ยังต้องอาศัยสาย USB แบบสองหัว สำหรับเพิ่มการจ่ายไฟ ก็คงจะต้องต่อสายเข้ากับพอร์ต USB ให้ครบ จึงจะทำงานได้ตามปกติ แต่ถ้าฮาร์ดดิสก์แบบสาย USB เส้นเดียว หากต่อแล้วไม่สามารถใช้งานได้ ก็อาจจะต้องลองนำสาย USB อื่นมาลองใช้งานดูก่อน
          4. ในกรณีที่เป็นพอร์ตสำหรับการแสดงผล เช่น ต่อสายสัญญาณแล้วไม่มีการตอบสนอง ให้เข้าไปที่ Windows Mobile Center ด้วยการคลิกขวาที่ไอคอนรูปแบตฯ ที่อยู่มุมขวาล่างของหน้าจอ จากนั้นเลือกออพชันดังกล่าวนี้ จากนั้นคลิกที่ Connect Display ในหัวข้อ External Display แล้วดูว่ามีการตอบสนองหรือไม่
          5. ซึ่งหากการต่อสัญญาณภายนอกไม่เกิดผล ให้ลองกดปุ่ม F10 เพื่อให้ระบบตรวจสอบ Second screen ว่ามีสัญญาณต่อสู่ภายนอกหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีก็คงต้องหาวิธีการอื่นต่อไป
          6. โดยส่วนใหญ่โน๊ตบุ๊คในปัจจุบัน จะมีพอร์ตสำหรับการแสดงผลมากกว่า 1 พอร์ตขึ้นไป อย่างเช่น หากมีปัญหาที่พอร์ต D-sub หรือ DVI ก็อาจจะทดลองย้ายไปใช้พอร์ต HDMI เพื่อดูว่ามีปัญหาที่ส่วนใด ซึ่งหากมีปัญหาทุกพอร์ต อาจจะต้องมาตรวจเช็คที่ไดรเวอร์ ซึ่งให้ดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ผู้ผลิตหรือจากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็น nVIDIA, AMD หรือ Intel มาติดตั้งใหม่อีกครั้ง
แต่ถ้าใช้งานได้เป็นบางพอร์ต ก็อาจเป็นไปได้ว่าพอร์ตบางตัวบนเมนบอร์ดนั้นเกิดความเสียหาย อาจจะต้องส่งศูนย์บริการ เพื่อทำการซ่อมแซมหรืออาจเลี่ยงไปใช้พอร์ตอื่นสำหรับการทำงานนั่นเอง
ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทสรุปฟีเจอร์เด็ดของ Galaxy S5 ที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอ!!

บทสรุปฟีเจอร์เด็ดของ Galaxy S5 ที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอ!! ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

           - อัพเดทข่าวล่าสุดกับทีมงาน Sanook! Hitech กันอีกครั้งสำหรับการสรุปทุกๆ ข่าวเกี่ยวกับ การเปิดตัวของ Samsung Galaxy S5 เพราะใกล้เข้ามาแล้วสำหรับวันเปิดตัวของ Samsung Galaxy S5 สมาร์ทโฟนเรือธงที่เตรียมเปิดต้วในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ นั้นก็คือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นั้นเอง ดูจากสเปคคร่าวๆ แล้วนี่หน้าจอมีขนาดเท่ากับ Samsung Galaxy Grand 2 เลยนะเนี่ย...
          สำหรับวันนี้นั้นทางทีมงาน Sanook! Hitech ขอสรุปเรื่องฟีเจอร์เด็ดของ Galaxy S5 ที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอและคาดว่าจะได้เห็นกัน มาดูครับมีอะไรใหม่ๆ บ้าง?

Samsung Galaxy S5 สมาร์ทโฟน พันธุ์อึดกันน้ำ กันฝุ่น ทนได้ทุกสภาพอากาศ!

          ใครว่า สมาร์ทโฟนกันน้ำกันฝุ่น จะมีแต่ มือถือจากโซนี่ เพียงแค่แบรนด์เดียว เพราะทางฝั่ง Galaxy S5 ก็มีข่าวลือในเรื่องนี้เช่นกันนะครับ


Image source: masable.com

64 bit Exynos6 Octa core processor คือระบบประมวลผลใหม่

          เค้าว่า...Samsung Galaxy S5 มาพร้อมกับระบบประมวลผลที่เร็วที่สุดชิป Exynos6 แบบ 64-bit ถ้าหากเป็นจริงคู่แข่งหลายตัวคงต้องหนาวๆ ร้อนๆ แน่นอน

Samsung Galaxy S5  Spec ฟันธง! สเป็คหลุด Galaxy S5


- หน้าจอ 5.25นิ้ว แบบยืดหยุ่นได้
- Android 4.4 KitKat
- 3GB Ram
- กล้องหลัง 16 ล้าน, กล้องหน้า 4 ล้าน
- S vision : เก็บภาพได้ดีทุกสถานการณ์
- ตัวเครื่องกันน้ำ กันกระแทกได้
- แบตอึด 3,200 มิลิแอมป์
- ลำโพง S surround

Samsung Galaxy S5  จะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.25 curved 2k display

          Galaxy S5 จออย่างเทพใหญ่ 5.25 นิ้ว ยืดหยุ่นได้ ละเอียดสุด 2k


Image source: www.galaxyS5info.com

Quad-speaker: S surround effects

          เป็นไปด๊ายย! Samsung Galaxy S5 ลำโพงตึ้บ! เอส เซอร์ราวด์ 4 จุด


Image source: www.galaxyS5info.com

S conference Sammy

          เผย Samsung Galaxy S5 มาพร้อมฟีเจอร์ ประชุมแบบเห็นหน้าได้สูงสุด 3 สาย


Image source: http://www.galaxyclub.nl
4,000 mAh battery life
สื่อนอกเผย Samsung Galaxy S5  ให้แบตอึด ทนกว่าเดิม ด้วยเสปค 4,000 mAh
แฟนๆ Sanook! Hitech สามารถอ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่ || รวมทุกเรื่อง Galaxy S5
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โซเชียลมีเดียทำ “โลกแคบ“ ผู้ใหญ่ (ก็) ติดเฟซบุ๊ก

 โลกแคบ ผู้ใหญ่ (ก็) ติดเฟซบุ๊ก

          เด็กติดเกมส์ วัยรุ่นติดแชต โจ๋ออนไลน์ ดูจะเป็นคำที่คุ้นหูในข่าวไม่เสื่อมคลาย หลายคนก็เลยคิดว่า โลกของโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีใหม่ๆ ดูจะมีแต่วัยรุ่นและคนทำงานเท่านั้นที่เข้าถึง และพลอยเล่นไปซะจนติดเสียด้วย
แต่ก็ไม่เสมอไป...เพราะหากผู้สูงอายุอยากจะเล่น ก็คงจะห้ามไม่ได้ ใช่หรือไม่
          เมื่อผู้สูงอายุอยากจะเล่นทั้งที ก็เลยต้องพึ่งตัวช่วยเพื่อให้ก้าวตามเด็กๆ ทัน และการเข้าคอร์สเรียนคอมพิวเตอร์พื้นฐานและเฟซบุ๊ก ก็ดูจะเป็นอะไรที่รวดเร็วทันใจ เช่นเดียวกับผู้สูงอายุวัยหลังเกษียณที่เลือกจะใช้เวลาว่างมาเรียนการใช้อินเตอร์เน็ตในคอร์สเรียนคอมพิวเตอร์พื้นฐานที่ห้องเรียนชุมชน โลตัสปิ่นเกล้า เป็นตัวช่วยในการเรียนให้ทันโลก
          และก็เรียกว่าคอร์สเรียนวัยรุ่น (ใหญ่) จริงๆ เพราะ เรือโท จิรศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ อาจารย์ผู้สอนคอมพิวเตอร์พื้นฐานเผยว่า ผู้เรียนทุกคนอายุไม่น้อยแล้วทั้งนั้น มีตั้งแต่ 45 ปี ไปจนถึง 70 เลยทีเดียว แถมนักเรียนหลายคนยังไม่เคยจับคอมพิวเตอร์มาก่อนด้วยซ้ำ จะสอนทั้งทีต้องปูพื้นฐานใหม่ทั้งหมดแม้กระทั่งเปิดเครื่อง ไปจนถึงดูแลรักษาคอมพิวเตอร์
          เรือโทจิรศักดิ์เผยว่า นักเรียนที่มาเรียนส่วนมากต้องการใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อให้รู้เท่าทันข่าวสารและเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัว เนื้อหาที่เรียนจึงเน้นหนักไปทางการใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่าโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศทั่วๆ ไป ในห้องเรียนก็จะสอนให้ผู้เรียนได้รู้จักการค้นหาเว็บไซต์ ค้นหารูปภาพ ดูทีวีในอินเตอร์เน็ต สมัครอีเมล์เขียนจดหมายออนไลน์ และโปรแกรมเฟซบุ๊ก
          นักเรียนบางคนไม่เคยมีอีเมล์ เมื่อได้รับส่งจดหมายกันก็ตื่นเต้นสนุกสนาน บางคนก็โทร.มาถามว่าเข้าอินเตอร์เน็ตที่บ้านไม่ได้ทำอย่างไร บางคนเมื่อกลับไปพูดคุยกับลูกหลานที่บ้านแล้ว ก็จะเข้ามาถามว่าเขาจะใช้โปรแกรมสไกป์ได้อย่างไร นักเรียนในคลาสจะรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของโลกออนไลน์ว่าทำให้เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
          ด้าน สุชาติ แสงเถกิง ข้าราชการบำนาญ อายุ 65 ปี เล่าว่า ที่เลือกเรียนวิชาคอมพิวเตอร์นี้เพราะถือว่าอาจจะเป็นประโยชน์ให้กับตัวเองในอนาคตได้ เพราะสมัยนี้วิชาคอมพิวเตอร์จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น และอัพเดตตัวเองให้ทันกับโลกและสังคมส่วนใหญ่ได้ ซึ่งหลังจากมาเรียนแล้วก็ได้ต่อยอดในการทำงาน และทำให้เจอกับเพื่อนฝูงในแวดวงเก่าๆ ได้ เหมือนช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
          หลังจากเกษียณก็ได้ทำอาชีพทนายความ ได้ใช้คอมพิวเตอร์บ้าง ตอนนี้ก็ได้ใช้หาข้อมูลเรื่องตัวบทกฎหมาย คำพิพากษาต่างๆ ที่เคยตัดสินไว้ นอกจากนี้ก็จะใช้เฟซบุ๊กในการติดต่อกับเพื่อนฝูงแม้จะไม่ได้เข้าไปดูบ่อยนัก แต่ก็ทำให้ยังได้ติดต่อกับเพื่อนที่ไม่ได้คุยกันนาน สังคมโซเชียลมีเดียมีประโยชน์หลายด้าน ไม่มีวัยใดที่ยากเกินกว่าจะเรียนรู้
          ขณะที่ เพ็ญศรี จันทร์สระแก้ว แม่บ้านอายุ 65 ปี เผยว่า ที่ผ่านมาหลังจากเกษียณแล้วจะมีเวลาว่างเยอะ ก็อยากใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่ที่เข้ามาเรียนคอมพิวเตอร์จริงๆ เป็นเพราะได้เห็นหลานๆ ที่บ้านเปิดคอมพิวเตอร์เล่นกันอย่างเป็นเรื่องธรรมดาๆ เราเองไม่เคยได้สัมผัส จะถามพวกเขาก็ไม่กล้า กลัวว่าเขาจะมองว่าตลกทำไมทำไม่ได้ เลยลงทุนไปซื้อโน้ตบุ๊กมาเรียนเอง ที่บ้านก็เลยรู้ว่าเราเอาจริงเรื่องนี้
          ก่อนหน้านี้หลานอาจจะคิดว่าเราเชย ทำอะไรก็ไม่ได้ พอมาเรียน ลูกหลานก็จะคิดว่าเราไม่แก่เลย เราพยายามเรียนรู้ และเราก็เจ๋งอยู่ เราเข้าใจโลกของเขามากขึ้น เรารู้ว่าเล่นเฟซบุ๊กทำอะไรได้บ้าง เราคุยกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันนานได้ ประทับใจมาก พอได้เจอเพื่อนเก่าก็ได้ย้อนอดีต ถามกันว่าจำเรื่องนั้นนี้ได้ไหม ทั้งที่ผ่านมานานมากแล้ว ไม่ต้องไปตามหาเพื่อนให้วุ่นวายว่าเขาอยู่ที่ไหนๆ หรือจะเป็นการรับส่งอีเมล์ที่เราใช้แทนโทรศัพท์ได้ เราเองไม่คิดว่าเราจะมาเจอความสุขที่แตะต้องได้ในขณะที่เราอายุเยอะแบบนี้จริงๆ
          ไม่เพียงแต่จะเล่นเฟซบุ๊กและรับส่งอีเมล์เท่านั้น เพ็ญศรียังใช้อินเตอร์เน็ตในการเสาะหาเส้นทางใน กูเกิลแมป ก่อนที่จะเดินทางไปไหนๆ หรือใช้จองห้องพัก เปรียบเทียบราคา ไม่เว้นแม้แต่การเล่นไลน์
การส่งสติ๊กเกอร์แทนความรู้สึก เป็นอะไรที่โดนใจ และยิ่งใช้ก็ยิ่งเข้าใกล้กันมากขึ้นจริงๆ
ทุกวันนี้ เพ็ญศรีบอกว่า ติดโลกออนไลน์เข้าแล้วจริงๆ วันหนึ่งจะต้องขอเข้าไปดูสักครั้ง
          ตอนเล่นคอมพิวเตอร์แรกๆ รู้สึกดีมาก เล่นจนเรารู้สึกเข้าใจคำที่เขาบอกว่าเด็กติดเกมส์ เข้าใจหลานที่บ้านเลย ตอนแรกไม่รู้ตัว จนกระทั่งมันขึ้นเตือนว่าเป็นยูสเซอร์ที่ใช้เน็ตเยอะมาก เลยเข้าใจว่าเหมือนที่เราติดเพื่อนนี่เอง และก็คิดได้ว่าจะไปว่าเด็กก็ไม่ถูก เพียงแต่เด็กไม่รู้ว่าต้องแบ่งเวลาอย่างไร จากนั้นเลยเริ่มจัดสรรเวลาให้ตัวเองอย่างจริงจัง
          คิดว่าโซเชียลมีเดียทำให้โลกเราแคบลง ส่วนดีก็มีเยอะ ส่วนไม่ดีก็มี เด็กสมัยนี้โชคดีมากๆ แล้วที่ได้ใช้อะไรพวกนี้ ตัวเราไม่เคยคิดว่าอะไรคือโลกแคบลง คำพูดนี้เราได้ยินมานานมากแล้ว แต่อธิบายไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ทุกคนเข้าใจได้ เทคโนโลยีย่อโลกของเราเข้ามาแล้วจริงๆ
ไม่มีวัยใดแก่เกินเทคโนโลยี
ที่มา : นสพ.มติชน
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com